Felice Gelato Thailand | เฟลิเช่ เจลาโต้ ..สุขใจในแบบคุณ _กับเจลาโต้คุณภาพหลายรสชาด ...ทานแล้วไม่อ้วน :)
“เจลาโต้” กับ “ไอศครีม”
แตกต่างกันอย่างไร ?
![w644.jpg](https://static.wixstatic.com/media/4bf513_90e9a69919284a46b04cf952f2ab27aa~mv2.jpg/v1/crop/x_0,y_141,w_644,h_504/fill/w_600,h_470,al_c,q_80,usm_0.66_1.00_0.01,enc_avif,quality_auto/w644.jpg)
ผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยที่สงสัยว่า “ไอศครีม” กับ “เจลาโต้” เหมือนหรือต่างกันอย่างไร ?? และหลายคนยังเข้าใจว่าไม่แตกต่าง เพราะทั้ง “ไอศครีม” และ “เจลาโต้” มันก็คือ “ไอศครีม” นั่นแหละ
แต่ในความเป็นจริงแล้ว “เจลาโต้” ถือเป็นไอศครีมชนิดหนึ่งที่มีต้นกำเนิดจากอิตาลี เป็นไอศครีมชนิดที่มีไขมันต่ำ และมีคุณค่าทางโภชนการสูงกว่าไอศครีมทั่วๆไป...
เจลาโต้ ประกอบไปด้วย 3ส่วนสำคัญ ที่ทำให้เกิดความต่าง คือ...
1. ฟองอากาศ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ เจลาโต้ฟูและนุ่มนวล ในระหว่างการปั่นจะเพิ่มฟองอากาศมากขึ้นเรื่อยๆ จนกว่าการปั่นจะเสร็จสิ้น การตีเจลาโต้ให้ฟูมีความสำคัญ เพราะถ้าฟองอากาศอยู่ในขั้นเหมาะสม นอกจากจะทำให้เนื้อเจลาโต้ดูดีน่ารับประทานแล้วยังช่วยให้ได้ความรู้สึกเข้าถึงรสที่นุ่มนวลหลอมละลายอยู่ในปากอีกด้วย
2. น้ำ เป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งในขบวนการผลิตเจลาโต้ ช่วยละลายส่วนประกอบอื่น ๆ โดยทฤษฎีแล้วเมื่อเอาน้ำผสมกับวัตถุดิบอื่นจะช่วยให้ระดับการแข็งตัวไม่กลายเป็นน้ำแข็ง
3. Solid ของแห้ง เป็นองค์ประกอบที่แยกออกเป็น 4 ส่วน คือ น้ำตาล, ไขมัน, SLNG (ส่วนที่มีอยู่ในนม) และส่วนผสมอื่นๆ
ดังนั้นการผลิตเจลาโตจึงเป็นการผลิตแบบอุตสาหกรรมขนาดเล็ก ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ และส่วนประกอบอื่นๆตามแต่รสชาดกำหนด ส่วนไอศครีมส่วนใหญ่เป็นการผลิตแบบอุตสาหกรรมใช้เวลาเป็นเดือนกว่าสินค้าจะถึงมือผู้บริโภค วัตถุดิบที่ใช้จึงต้องมีคุณสมบัติที่ทำให้ไอศครีมอยู่ยาวนานขึ้น
เช่น การใช้ผง การใส่สี กลิ่นรส ที่เป็นสารเคมีและสารกันบูด และตีเอาอาศเข้าไป 100-130% เพื่อให้เนื้อไอศครีมมีความโปร่งและพองตัวขึ้นอีก
ในขบวนการผลิต “เจลาโต้” ใช้รอบการตีที่ต่ำ มีอากาศอยู่ในระดับ 20-25% ทำให้เนื้อมีความหนาแน่นสูง เนื้อเนียน รสชาดเข้มข้น
![S__3727362.jpg](https://static.wixstatic.com/media/4bf513_ade4fbe289ee482fa0e840e86837c73b~mv2.jpg/v1/crop/x_0,y_0,w_602,h_345/fill/w_600,h_344,al_c,q_80,usm_0.66_1.00_0.01,enc_avif,quality_auto/S__3727362.jpg)
เจลาโต้ใช้วัตถุดิบในการผลิตจากผลไม้สด, Dairy Product, และส่วนผสมจากธรรมชาติ ไม่ใช้เครื่องปรุงเทียม ไขมันที่ใช้ก็เป็นไขมันจากนมทั้งหมด ทำให้มีปริมาณไขมันเพียงแค่ 2-9% และเนื้อที่เนียนนุ่มและหนาแน่นด้วยวัตถุดิบที่สดใหม่ จึงได้รสชาดที่เข้มข้น ผู้บริโภคสามารถสัมผัสรดชาดที่ท้จริงได้
ขณะที่ไอศครีมมีส่วนผสมของกลิ่น สี และสารสังเคราะห์ และใช้ไขมันเทียมหรือมาการีน และน้ำมันจากพืชที่มีไฮโดเจน รวมถึงกรดไขมันไตรกลีเซอไรด์ หรือไขมันทรานซ์ ไขมันเหล่านี้ที่จะเคลือบอยู่ในปาก ทำให้ผู้บริโภคไม่สามารถสัมผัสกับรสชาดที่แท้จริงได้เต็มที่
จากส่วนผสมดังกล่าวทำให้ไอศครีมมีปริมาณไขมันที่สูงถึง18-30% และมีแคลลอรี่มากกว่าเจลาโต้ถึง 1 เท่าตัว!!!...
ยกตัวอย่างเช่น ในปริมาณ 1 ถ้วย รสวนิลาเหมือนกัน
ไอศครีมจะมี 267 แคลลอรี่ ไขมัน 14.3 กรัม น้ำตาล 32.5 กรัม และคาร์โบไฮเดรต 32 กรัม
ส่วนเจลาโต้จะมี 204 แคลลอรี่ ไขมัน 9 กรัม น้ำตาล 24 กรัม และคาร์โบไฮเดรต 25 กรัม เป็นต้น
นอกจากนี้ “เจลาโต้” ยังมีวิตามิน และอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายจำนวนมาก อาทิ วิตามินA, B, C, โปรตีน, แคลเซี่ยม, โพแตสเซี่ยม, ฟอสฟอรัส และปลอดสารกลูเตน (Gluten-Free)
ที่สำคัญ “เจลาโต้” จะใช้น้ำตาลแบบ saccharose ซึ่งเป็นน้ำตาลชนิดที่ไม่เพิ่มน้ำตาล ในเลือดมาก ทำให้คนที่เป็นโรคเบาหวานสามารถรับประทานได้ (ในปริมาณที่เหมาะสม)